จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กากอุตสาหกรรมกลายเป็นปัญหาสำคัญ ที่จะต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน และถูกวิธี การขยายกำลังผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม ที่ประกอบกิจการอยู่แล้ว ประกอบกับการเกิดขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และย่อยที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการปรับโครงสร้าง ภาษีการสนับสนุนเงินกู้ของภาครัฐบาล และปัจจัยอย่างอื่น จึงเป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนจากทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้กิจกรรมต่าง ๆ ของภาคอุตสาหกรรม กลายเป็นแหล่งกำเนิดของเสียที่สำคัญ และเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

    ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2542 เพื่อดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมขึ้น โดยระหว่างการยื่นขอมติเห็นชอบในรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) กลุ่มผู้ถือหุ้นจึงได้จัดตั้ง บริษัท เวสต์ เอ็กซ์เซนจ์ จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2544 เพื่อที่จะเริ่มการติดต่อหาลูกค้าและการทำประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าและเป็นการรองรับการดำเนินการของบริษัทในอนาคต โดยบริษัท เวสต์เอ็กซ์เซนจ์ จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทน จากโรงงานปูนซีเมนต์หลายแห่งภายในประเทศ เพื่อที่จะรับกากอุตสาหกรรมจากลูกค้า เพื่อที่จะนำไปเผาที่โรงงานปูนซีเมนต์ เนื่องจาก ณ ขณะนั้น บริษัทยังไม่สามารถทำการฝังกลบได้

     ต่อมาบริษัทฯ ได้รับมติชอบตามรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักงานนโยบายสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2544 และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานลำดับที่ 101 และ 105 ประเภท ปรับคุณภาพของเสียรวม คัดแยก และฝังกลบสิ่งปฎิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่มีลักษณะและคุณสมบัิติตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทราง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535) ออกตามในพระราชขบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เป็นรายแรกจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2545 จึงได้มีการเริ่มก่อสร้างศูนย์บริการบำบัดกากอุตสาหกรรม จังหวัดสระแก้ว ขึ้น บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 และ 450 ล้านบาท ในปี 2545 และ 2546 ตามลำดับเพื่อลงทุนในโครงการ และได้เริ่มดำเนินงานโครงการดำจัดกากอุตสาหกรรม ที่จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2546 เป็นต้นมา ณ สิ้นปี 2546 บริษัทฯ ได้ทำการบำบัดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย 17,300 ตัน และที่ไม่เป็นอันตราย 49,400 ตัน รวมทั้งสิ้น 66,700 ตัน โดยคิตเป็นรายได้ 97.8 ล้านบาท บริษัทฯ ได้มีมติพิเศษจากการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญเพื่อทุนจดทะเบียนเป็น 600 ล้านบาท และบริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนแล้ว เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2547 และได้นำหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2547ณ สิ้นปี 2547 บริษัทได้ทำการบำบัดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจำนวน 46,468 ตัน และที่ไม่เป็นอันรายจำนวน 100,134 ตัน โดยคิดเป็นรายได้จากการดำเนินการรวม 253.6 ล้านบาท เพื่มขึ้นจากปี 2546 คิดเป็นร้อยละ 259 


บริษัทในเครือ

บริษัท เจทีเอส อลูมิเนียม แอนด์ เมทเทิล จำกัด

มีประสบการณ์ทางด้านการผลิต และรับจ้างหลอมอลูมิเนียมมานานกว่า 30 ปี


28 หมู่ที่ 10  ตำบลสระสี่เหลี่ยม  อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี  20140
โทร. 038-194-041-3  แฟกซ์. 038-194-044


Back to top